การทำงาน ของ วิจิตร พรพฤฒิพันธุ์

วิจิตร พรพฤฒิพันธุ์ เริ่มงานการเมืองโดยการร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ และเคยเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (สุทัศน์ เงินหมื่น) ต่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ครั้งแรก ในปี 2544 ผลปรากฎว่า เรวัต แสงวิจิตร จากพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง แต่ต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายเรวัต เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าได้กระทำการอันเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้โดยการให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง (ใบแดง) จึงได้จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ผลปรากฏว่านายวิจิตร เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์สมัยแรก ต่อมานายวิจิตร ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

ต่อมาย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทย และลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์สมัยกที่ 2 ภายหลังการยุบพรรคชาติไทยในปี 2551 เขาได้ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมกับสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคชาติไทย และลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งต่อมา ในปี 2554 แต่แพ้ให้กับ สุทัศน์ จันทร์แสงสี จากพรรคเพื่อไทย ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา[1]

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แม้จะถูกทาบทามให้ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่เขาก็ยังยืนยันลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เดิม ในนามพรรคชาติไทยพัฒนาเช่นเดิม[2] แต่ต้องแข่งขันกับพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ หลานสาว[3][4] ซึ่งลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ ผลปรากฏว่านางสาวพิมพ์พร เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง

นายวิจิตร เป็นนายกสมาคมกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร